วันพุธที่ ๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๐


พระบาทสมเด็จพระศรีเสาวภาคย์ หรือ พระนามเดิมว่า เจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์ เป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ ๒๐ ของกรุงศรีอยุธยา และพระองค์ที่ ๔ ของราชวงศ์สุโขทัย เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่สองในสมเด็จพระเอกาทศรถ แต่เจ้าฟ้าสุทัศน์พระโอรสองค์ใหญ่ซึ่งทรงดำรงตำแหน่งพระมหาอุปราชได้เสวยยาพิษสิ้นพระชนม์ และสมเด็จพระเอกาทศรถก็ตรอมพระทัยสวรรคตตามไปอีกพระองค์หนึ่ง เจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์จึงได้รับทูลเชิญให้ขึ้นครองราชย์ เมื่อปี พ.ศ. ๒๑๕๓ ทรงพระนามว่า สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๔ โดยส่วนพระองค์แล้วพระองค์มีพระเนตรเสียข้างหนึ่ง และทรงมีพระบุคลิกค่อนข้างอ่อนแอและที่สำคัญที่สุดคือพระองค์ไม่สนพระทัยเกี่ยวกับราชการบ้านเมืองเลย
ในรัชสมัยของพระองค์ ได้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นในแผ่นดิน โดยเรือของญี่ปุ่นที่เข้ามาค้าขาย ได้ปล้นราษฎร ได้บุกเข้าไปในพระนคร และเข้าไปในพระราชวังหลวง จับสมเด็จพระศรีเสาวภาคย์และบังคับให้ทรงปฏิญาณสัญญาว่ามิให้ผู้ใดทำร้ายพวกญี่ปุ่น แล้วได้ลงเรือแล่นหนีออกทะเล โดยนำตัวสมเด็จพระสังฆราชไปเป็นตัวประกันจนถึงปากน้ำ
พระศรีเสาวภาคย์ เนื่องจากทรงไม่สนพระทัยราชการบ้านเมืองพระศรีเสาวภาคย์ทรงครองราชย์อยู่ได้ปีสองเดือนก็โดนขุนนางปลดจากราชสมบัติและนำไปสำเร็จโทษจึงเสด็จสวรรคต เมื่อปี พ.ศ. ๒๑๕๔ พระบรมศพถูกนำไปฝังที่วัดโคกพระยา

ไม่มีความคิดเห็น: